วิธีการคำนวณลอการิทึมใน vba (พร้อมตัวอย่าง)


คุณสามารถใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้เพื่อคำนวณ บันทึก (ฐาน 10) ของค่าโดยใช้ VBA:

 Function FindLog(number)
FindLog = Application.WorksheetFunction.Log(number)
End Function

และคุณสามารถใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้เพื่อคำนวณ ลอการิทึมธรรมชาติ ของค่าโดยใช้ VBA:

 Function FindNaturalLog(number)
FindNaturalLog = Log(number)
End Function

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีใช้แต่ละฟังก์ชันในทางปฏิบัติ

ตัวอย่างที่ 1: คำนวณบันทึก (ฐาน 10) โดยใช้ VBA

ในการคำนวณบันทึก (ฐาน 10) ของค่าใน Excel เราจะใช้ฟังก์ชัน LOG ดังต่อไปนี้:

สิ่งนี้บอกเราว่าบันทึกของ 5 คือ 0.69879

ในการทำซ้ำฟังก์ชันนี้ใน VBA เราสามารถกำหนดฟังก์ชันต่อไปนี้:

 Function FindLog(number)
FindLog = Application.WorksheetFunction.Log(number)
End Function

จากนั้นเราสามารถพิมพ์ฟังก์ชันนี้ลงในเซลล์ B2 เพื่อคำนวณบันทึกของค่าในเซลล์ B1 :

สิ่งนี้บอกเราว่าบันทึกของ 5 คือ 0.69879

ซึ่งสอดคล้องกับค่าที่คำนวณโดยฟังก์ชัน LOG ใน Excel

ตัวอย่างที่ 2: คำนวณบันทึกธรรมชาติโดยใช้ VBA

ในการคำนวณลอการิทึมธรรมชาติของค่าใน Excel เราจะใช้ฟังก์ชัน LN ดังนี้

นี่บอกเราว่าลอการิทึมธรรมชาติของ 5 คือ 1.609438

ในการทำซ้ำฟังก์ชันนี้ใน VBA เราสามารถกำหนดฟังก์ชันต่อไปนี้:

 Function FindNaturalLog(number)
FindNaturalLog = Log(number)
End Function

จากนั้นเราสามารถพิมพ์ฟังก์ชันนี้ในเซลล์ B2 เพื่อคำนวณลอการิทึมธรรมชาติของค่าในเซลล์ B1 :

บันทึกธรรมชาติใน VBA

สิ่งนี้บอกเราว่าบันทึกของ 5 คือ 1.609438

ซึ่งสอดคล้องกับค่าที่คำนวณโดยฟังก์ชัน LN ใน Excel

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

บทช่วยสอนต่อไปนี้จะอธิบายวิธีการทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน VBA:

VBA: วิธีเขียนฟังก์ชัน AVERAGEIF และ AVERAGEIFS
VBA: วิธีเขียนฟังก์ชัน SUMIF และ SUMIFS
VBA: วิธีเขียนฟังก์ชัน COUNTIF และ COUNTIFS

เพิ่มความคิดเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *