วิธีแปลงคะแนน z เป็นคะแนนดิบ (ทีละขั้นตอน)
คะแนน z บอกเราว่าค่าหนึ่งมาจากค่าเฉลี่ยเป็นจำนวนเท่าใด เราใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อคำนวณคะแนน z:
คะแนน Z = (x – μ) / σ
ทอง:
- x: ค่าข้อมูลดิบ
- μ: ค่าเฉลี่ยของชุดข้อมูล
- σ: ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของชุดข้อมูล
หากต้องการแปลงคะแนน z เป็นคะแนนดิบ (หรือ “ค่าข้อมูลดิบ”) เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้:
คะแนนดิบ = μ + zσ
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีการแปลงคะแนน z เป็นคะแนนดิบในทางปฏิบัติ
ตัวอย่างที่ 1: รายได้ต่อปี
ในเมืองหนึ่งๆ รายได้ครัวเรือนต่อปีโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 45,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
สมมติว่าบางครัวเรือนมีรายได้ต่อปีโดยมีคะแนน z อยู่ที่ 1.5 รายได้ต่อปีของพวกเขาคือเท่าไร?
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เราสามารถใช้สูตรคะแนนดิบได้:
- คะแนนดิบ = μ + zσ
- คะแนนดิบ = $45,000 + 1.5*$6,000
- คะแนนใหญ่ = 54,000 ดอลลาร์
ครัวเรือนที่มีคะแนน z 1.5 จะมีรายได้ต่อปี 54,000 ดอลลาร์
ตัวอย่างที่ 2: ผลการสอบ
สำหรับการสอบคณิตศาสตร์บางวิชา คะแนนเฉลี่ยคือ 81 โดยมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานคือ 5
สมมติว่านักเรียนคนหนึ่งมีคะแนนสอบด้วยคะแนน z เท่ากับ -2 คะแนนสอบของพวกเขาคืออะไร?
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เราสามารถใช้สูตรคะแนนดิบได้:
- คะแนนดิบ = μ + zσ
- คะแนนดิบ = 81+ (-2)*5
- คะแนนดิบ = 71
นักเรียนที่มีคะแนน z -2 ได้คะแนนสอบ 71
ตัวอย่างที่ 3: ความสูงของพืช
ความสูงเฉลี่ยของพืชบางชนิดคือ 8 นิ้ว โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.2 นิ้ว
สมมติว่าต้นไม้ต้นหนึ่งมีความสูงโดยมีคะแนน z เท่ากับ 0 ต้นไม้ต้นนี้สูงเท่าไร?
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เราสามารถใช้สูตรคะแนนดิบได้:
- คะแนนดิบ = μ + zσ
- คะแนนดิบ = 8+ 0*5
- คะแนนดิบ = 8
ต้นไม้ที่มีคะแนน z เท่ากับ 0 จะมีความสูง 8 นิ้ว
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
วิธีการตีความคะแนน Z: พร้อมตัวอย่าง
5 ตัวอย่างการใช้ Z-Score ในชีวิตจริง