วิธีใช้ฟังก์ชัน large if ใน excel (พร้อมตัวอย่าง)
คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อดำเนินการฟังก์ชัน BIG IF ใน Excel:
สูตร 1: ใหญ่ IF ด้วยเกณฑ์เดียว
=LARGE(IF( A2:A16 ="A", C2:C16 ),2)
สูตรนี้ค้นหาค่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองใน C2:C16 โดยที่ค่าใน A2:A16 เท่ากับ “A”
สูตร 2: ใหญ่ IF ที่มีหลายเกณฑ์
=LARGE(IF(( A2:A16 ="A")*( B2:B16 ="Guard"), C2:C16 ),2)
สูตรนี้ค้นหาค่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองใน C2:C16 โดยที่ค่าใน A2:A16 เท่ากับ “A” และ ค่าใน B2:B16 เท่ากับ “Guard”
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีใช้แต่ละสูตรในทางปฏิบัติกับชุดข้อมูลต่อไปนี้ใน Excel:
ตัวอย่างที่ 1: LARGE IF ที่มีเกณฑ์เดียว
เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อค้นหาค่าที่มากที่สุดเป็นอันดับสองใน C2:C16 โดยที่ค่าใน A2:A16 เท่ากับ “A”:
=LARGE(IF( A2:A16 ="A", C2:C16 ),2)
ภาพหน้าจอต่อไปนี้แสดงวิธีใช้สูตรนี้:
นี่บอกเราว่าคะแนนสูงสุดเป็นอันดับสองในบรรดาผู้เล่นทั้งหมดในทีม A คือ 14
ตัวอย่างที่ 2: LARGE IF ที่มีหลายเกณฑ์
เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อค้นหาค่าที่มากเป็นอันดับสองใน C2:C16 โดยที่ค่าใน A2:A16 เท่ากับ “A” และ ค่าใน B2:B16 เท่ากับ “Guard”:
=LARGE(IF(( A2:A16 ="A")*( B2:B16 ="Guard"), C2:C16 ),2)
ภาพหน้าจอต่อไปนี้แสดงวิธีใช้สูตรนี้:
นี่บอกเราว่าคะแนนสูงสุดเป็นอันดับสองในบรรดาการ์ดทั้งหมดในทีม A คือ 7
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
บทช่วยสอนต่อไปนี้อธิบายวิธีการทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน Excel:
วิธีการใช้ฟังก์ชัน Median IF ใน Excel
วิธีการคำนวณค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานใน Excel
วิธีการคำนวณช่วงระหว่างควอไทล์ (IQR) ใน Excel