Google ชีต: ตรวจสอบว่าเซลล์มีข้อความรายการหรือไม่


คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Google ชีตเพื่อตรวจสอบว่าเซลล์มีข้อความจากรายการหรือไม่

 =ArrayFormula(IF(LEN( A2:A13 ), REGEXMATCH( A2:A13 ,).*(?i)("&TEXTJOIN("|",
TRUE , $E$2:$E$4 )&").*") ,""))

ในตัวอย่างนี้ หากเซลล์ A1 มีค่าข้อความใดๆ ในช่วง E2:E8 จะส่งคืน ค่า TRUE มิฉะนั้นจะส่งคืนค่า FALSE

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีการใช้สูตรนี้ในทางปฏิบัติ

ตัวอย่าง: ตรวจสอบว่าเซลล์มีข้อความรายการใน Google ชีตหรือไม่

สมมติว่าเรามีชุดข้อมูลต่อไปนี้ใน Google ชีตซึ่งแสดงจำนวนคะแนนที่ผู้เล่นบาสเก็ตบอลแต่ละคนทำได้:

มีสามทีมในบัญชีรายชื่อเท็กซัส: Mavs, Spurs และ Rockets

สมมติว่าเราต้องการสร้างคอลัมน์ใหม่ที่บอกว่าแต่ละทีมมาจากเท็กซัสหรือไม่

ขั้นแรก เราจะสร้างรายชื่อทีมเท็กซัสในคอลัมน์ E:

จากนั้นเราจะใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบว่าค่าในคอลัมน์ทีมมีค่าข้อความใด ๆ ในคอลัมน์ E หรือไม่:

 =ArrayFormula(IF(LEN( A2:A13 ), REGEXMATCH( A2:A13 ,).*(?i)("&TEXTJOIN("|",
TRUE , $E$2:$E$4 )&").*") ,""))

เราสามารถพิมพ์สูตรนี้ในเซลล์ C2 จากนั้นคัดลอกและวางลงในเซลล์ที่เหลือในคอลัมน์ C:

Google ชีตตรวจสอบว่าเซลล์มีข้อความรายการหรือไม่

โปรดทราบว่าแถวใดๆ ที่มี Mavs, Spurs หรือ Rockets ถูกกำหนดให้ เป็น TRUE ในขณะที่แถวอื่นๆ ทั้งหมดถูกกำหนดให้ เป็น FALSE

ตัวอย่างเช่น:

  • แถวแรกถูกกำหนดให้ เป็น TRUE เนื่องจาก “Mavs” อยู่ในรายการ
  • บรรทัดที่สองถูกกำหนดเป็นค่า FALSE เนื่องจาก “Nets” ไม่อยู่ในรายการ
  • แถวที่สามถูกกำหนด เป็น TRUE เนื่องจาก “Mavs” อยู่ในรายการ
  • แถวที่สี่ถูกกำหนดให้เป็น FALSE เนื่องจาก “Lakers” ไม่อยู่ในรายการ

และอื่นๆ

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

บทแนะนำต่อไปนี้จะอธิบายวิธีทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน Google ชีต

วิธีตรวจสอบว่าเซลล์ว่างใน Google ชีตหรือไม่
วิธีตรวจสอบว่าค่าอยู่ในช่วงใน Google ชีตหรือไม่
วิธีใช้การจัดรูปแบบตามเงื่อนไขตามช่องทำเครื่องหมายใน Google ชีต

เพิ่มความคิดเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *