วิธีใช้การแจกแจงแบบทวินามใน excel


การแจกแจงแบบทวินาม เป็นหนึ่งในการแจกแจงที่ใช้บ่อยที่สุดในสถิติ บทช่วยสอนนี้จะอธิบายวิธีใช้ฟังก์ชันต่อไปนี้ใน Excel เพื่อแก้คำถามเกี่ยวกับความน่าจะเป็นแบบทวินาม:

  • BINOM.DIST
  • BINOM.DIST.RANGE
  • BINOM.INV

BINOM.DIST

ฟังก์ชัน BINOM.DIST ค้นหาความน่าจะเป็นที่จะได้ค่าจำนวนหนึ่ง   ความสำเร็จในการทดลองจำนวนหนึ่ง โดยความน่าจะเป็นที่จะประสบความสำเร็จในการทดลองแต่ละครั้งได้รับการแก้ไข

ไวยากรณ์ของ BINOM.DIST เป็นดังนี้:

BINOM.DIST (number_s, การทดลอง, cumulative_probability)

  • number_s: จำนวนความสำเร็จ
  • การทดลอง: จำนวนการทดลองทั้งหมด
  • probabilite_s: ความน่าจะเป็นที่จะประสบความสำเร็จในแต่ละการทดลอง
  • cumulative_probability: TRUE ส่งคืนความน่าจะเป็นสะสม FALSE ส่งคืนความน่าจะเป็นที่แน่นอน

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีแก้คำถามความน่าจะเป็นแบบทวินามโดยใช้ BINOM.DIST :

ตัวอย่างที่ 1

นาธานพยายามโยนโทษ 60% ถ้าเขาโยนโทษ 12 ครั้ง ความน่าจะเป็นที่เขาโยนโทษได้ 10 ครั้งพอดีเป็นเท่าใด?

เพื่อตอบคำถามนี้ เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel: BINOM.DIST(10, 12, 0.6, FALSE)

ความน่าจะเป็นที่นาธานพยายามโยนโทษ 10 ครั้งจาก 12 ครั้งคือ 0.063852

ตัวอย่างที่ 2

มาร์ตี้โยนเหรียญดี 5 ครั้ง ความน่าจะเป็นที่เหรียญจะขึ้นหัว 2 เท่าหรือน้อยกว่านั้นเป็นเท่าใด?

เพื่อตอบคำถามนี้ เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel: BINOM.DIST(2, 5, 0.5, TRUE)

ความน่าจะเป็นที่เหรียญจะขึ้นหัว 2 ครั้งหรือน้อยกว่าคือ 0.5

ตัวอย่างที่ 3

ไมค์โยนเหรียญดี 5 ครั้ง ความน่าจะเป็นที่เหรียญจะขึ้นหัวมากกว่า 3 ครั้งเป็นเท่าไหร่?

เพื่อตอบคำถามนี้ เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel: 1 – BINOM.DIST(3, 5, 0.5, TRUE)

ความน่าจะเป็นที่เหรียญจะขึ้นหัวมากกว่า 3 ครั้ง คือ 0.1875

หมายเหตุ: ในตัวอย่างนี้ BINOM.DIST(3, 5, 0.5, TRUE) จะส่งกลับความน่าจะเป็นที่เหรียญจะขึ้นหัว 3 ครั้งหรือน้อยกว่า ดังนั้น เพื่อหาความน่าจะเป็นที่เหรียญจะขึ้นหัวมากกว่า 3 ครั้ง เราก็แค่ใช้ 1 – BINOM.DIST(3, 5, 0.5, TRUE)

BINOM.DIST.RANGE

ฟังก์ชัน BINOM.DIST.RANGE ค้นหาความน่าจะเป็นที่จะได้ค่าจำนวนหนึ่ง   ความสำเร็จภายในช่วงที่กำหนด โดยขึ้นอยู่กับจำนวนการทดลองที่กำหนด ซึ่งความน่าจะเป็นของความสำเร็จของการทดลองแต่ละครั้งได้รับการแก้ไข

ไวยากรณ์ของ BINOM.DIST.RANGE เป็นดังนี้:

BINOM.DIST.RANGE (การทดลอง ความน่าจะเป็น _s number_s number_s2)

  • การทดลอง: จำนวนการทดลองทั้งหมด
  • probabilite_s: ความน่าจะเป็นที่จะประสบความสำเร็จในแต่ละการทดลอง
  • number_s: จำนวนความสำเร็จขั้นต่ำ
  • number_s2: จำนวนความสำเร็จสูงสุด

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีแก้คำถามความน่าจะเป็นแบบทวินามโดยใช้ BINOM.DIST.RANGE :

ตัวอย่างที่ 1

เดบร้าโยนเหรียญดี 5 ครั้ง ความน่าจะเป็นที่เหรียญจะขึ้นหัวระหว่าง 2 ถึง 4 ครั้งเป็นเท่าใด?

เพื่อตอบคำถามนี้ เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel: BINOM.DIST.RANGE(5, 0.5, 2, 4)

ความน่าจะเป็นที่เหรียญจะขึ้นหัวระหว่าง 2 ถึง 4 ครั้งคือ 0.78125

ตัวอย่างที่ 2

เรารู้ว่าผู้ชาย 70% สนับสนุนกฎหมายบางประการ หากสุ่มเลือกผู้ชาย 10 คน ความน่าจะเป็นที่ระหว่าง 4 ถึง 6 คนในจำนวนนี้สนับสนุนกฎหมายเป็นเท่าใด

เพื่อตอบคำถามนี้ เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel: BINOM.DIST.RANGE(10, 0.7, 4, 6)

ความน่าจะเป็นที่ผู้ชายที่ถูกสุ่มเลือกระหว่าง 4 ถึง 6 คนสนับสนุนกฎหมายคือ 0.339797

ตัวอย่างที่ 3

เทรี มีโอกาสโยนโทษ 90% ถ้าเธอโยนโทษ 30 ครั้ง ความน่าจะเป็นที่เธอทำได้ระหว่าง 15 ถึง 25 ครั้งเป็นเท่าใด

เพื่อตอบคำถามนี้ เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel: BINOM.DIST.RANGE(30, .9, 15, 25)

ความน่าจะเป็นที่เธอโยนโทษระหว่าง 15 ถึง 25 ครั้งคือ 0.175495

BINOM.INV

ฟังก์ชัน BINOM.INV ค้นหาค่าที่น้อยที่สุดซึ่งมีการแจกแจงแบบทวินามสะสมมากกว่าหรือเท่ากับค่าเกณฑ์

ไวยากรณ์ของ BINOM.INV เป็นดังนี้:

BINOM.INV (การทดสอบ ความน่าจะเป็น_s อัลฟา)

  • การทดลอง: จำนวนการทดลองทั้งหมด
  • probabilite_s: ความน่าจะเป็นที่จะประสบความสำเร็จในแต่ละการทดลอง
  • อัลฟา: ค่าของเกณฑ์ระหว่าง 0 ถึง 1

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีแก้คำถามความน่าจะเป็นแบบทวินามโดยใช้ BINOM.INV :

ตัวอย่างที่ 1

ดวนโยนเหรียญดี 10 ครั้ง จำนวนครั้งที่น้อยที่สุดที่เหรียญสามารถตกลงบนหัวเพื่อให้การแจกแจงแบบทวินามสะสมมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0.4 คือเท่าใด

เพื่อตอบคำถามนี้ เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel: BINOM.INV(10, 0.5, 0.4)

จำนวนครั้งที่น้อยที่สุดที่เหรียญหล่นลงบนหัวเพื่อให้การแจกแจงแบบทวินามสะสมมากกว่าหรือเท่ากับ 0.4 คือ 5

ตัวอย่างที่ 2

ดวนโยนเหรียญดี 20 ครั้ง จำนวนครั้งที่น้อยที่สุดที่เหรียญสามารถตกลงบนหัวเพื่อให้การแจกแจงแบบทวินามสะสมมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0.4 คือเท่าใด

เพื่อตอบคำถามนี้ เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel: BINOM.INV(20, 0.5, 0.4)

จำนวนครั้งที่น้อยที่สุดที่เหรียญหล่นลงบนหัวเพื่อให้การแจกแจงแบบทวินามสะสมมากกว่าหรือเท่ากับ 0.4 คือ 9

ตัวอย่างที่ 3

ดวนโยนเหรียญดี 30 ครั้ง จำนวนครั้งที่น้อยที่สุดที่เหรียญสามารถมุ่งหน้าเพื่อให้การแจกแจงแบบทวินามสะสมมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0.7 คือเท่าใด

เพื่อตอบคำถามนี้ เราสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ใน Excel: BINOM.INV(20, 0.5, 0.4)

จำนวนครั้งที่น้อยที่สุดที่เหรียญจะมุ่งหน้าเพื่อให้การแจกแจงแบบทวินามสะสมมากกว่าหรือเท่ากับ 0.7 คือ 16

เพิ่มความคิดเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *