Excel: วิธีตรวจสอบว่าเดือนและปีตรงกันระหว่างวันที่หรือไม่
คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบว่าเดือนและปีตรงกันระหว่างวันที่สองวันใน Excel หรือไม่:
=MONTH( A2 )&YEAR( A2 )=MONTH( B2 )&YEAR( B2 )
สูตรนี้จะตรวจสอบว่าเดือนและปีในเซลล์ A2 ตรงกับเดือนและปีในเซลล์ B2 และส่งคืน ค่า TRUE หรือ FALSE
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีการใช้สูตรนี้ในทางปฏิบัติ
ตัวอย่าง: ตรวจสอบว่าเดือนและปีตรงกันระหว่างวันที่
สมมติว่าเรามีรายการวันที่สองรายการต่อไปนี้ใน Excel:
เราสามารถพิมพ์สูตรต่อไปนี้ในเซลล์ C2 เพื่อตรวจสอบว่าเดือนและปีตรงกันระหว่างวันที่ในเซลล์ A2 และ B2 :
=MONTH( A2 )&YEAR( A2 )=MONTH( B2 )&YEAR( B2 )
จากนั้นเราสามารถคลิกและลากสูตรนี้ไปยังแต่ละเซลล์ที่เหลือในคอลัมน์ C:
คอลัมน์ C ส่งคืน TRUE หรือ FALSE เพื่อระบุว่าเดือนและปีที่ตรงกันระหว่างเซลล์ที่เกี่ยวข้องในคอลัมน์ A และ B
โปรดทราบว่าคุณยังสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อส่งคืน “Match” หรือ “Do not match” แทน TRUE หรือ FALSE ได้หากต้องการ:
=IF(MONTH( A2 )&YEAR( A2 )=MONTH( B2 )&YEAR( B2 ), “Match”, “Do Not Match”)
ภาพหน้าจอต่อไปนี้แสดงวิธีใช้สูตรนี้ในทางปฏิบัติ:
ขณะนี้คอลัมน์ C ส่งคืน ค่าที่ตรงกัน หรือ ไม่ตรงกัน เพื่อระบุว่าเดือนและปีตรงกันระหว่างเซลล์ที่เกี่ยวข้องในคอลัมน์ A และ B
สูตรนี้ทำงานอย่างไร?
จำสูตรที่เราใช้ตรวจสอบว่าเดือนและปีตรงกันระหว่างวันที่ในเซลล์ A2 และ B2 :
=MONTH( A2 )&YEAR( A2 )=MONTH( B2 )&YEAR( B2 )
สูตรนี้ทำงานอย่างไร:
เราใช้ฟังก์ชัน MONTH และ YEAR เพื่อแยกเดือนและปีออกจากแต่ละเซลล์ จากนั้นใช้สัญลักษณ์ & เพื่อเชื่อมค่าเหล่านี้เข้าด้วยกัน
ตัวอย่างเช่น MONTH(A2)&YEAR(A2) ส่งคืน 12023 สำหรับเซลล์ A2
จากนั้น MONTH(B2)&YEAR(B2) จะส่งกลับ 12023 สำหรับเซลล์ B2
ดังนั้น MONTH(A2)&YEAR(A2)=MONTH(B2)&YEAR(B2) ส่งคืน TRUE ตั้งแต่ 12023=12023
ตรรกะเดียวกันนี้ใช้เพื่อตรวจสอบว่าเดือนและปีของแต่ละเซลล์ที่ตรงกันในคอลัมน์ A และ B ตรงกันหรือไม่
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
บทช่วยสอนต่อไปนี้อธิบายวิธีการทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน Excel:
วิธีคำนวณจำนวนเดือนระหว่างวันที่ใน Excel
วิธีแปลงรูปแบบวันที่เป็นเดือนและปีใน Excel
วิธีคำนวณค่าเฉลี่ยต่อเดือนใน Excel