Excel: ถ้าตัวเลขอยู่ระหว่างช่วง ค่าที่ส่งคืน
คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบว่าตัวเลขอยู่ระหว่างช่วงใน Excel และส่งคืนค่าเฉพาะหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น:
วิธีที่ 1: ตรวจสอบว่าตัวเลขอยู่ในช่วงหรือไม่ (ไม่รวม)
=IF(AND( B2 >20, B2 <30), “Yes”, “No”)
สูตรเฉพาะนี้จะตรวจสอบว่าค่าในเซลล์ B2 อยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 (ไม่รวม 20 และ 30) และส่งคืนค่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ตามลำดับ
วิธีที่ 2: ตรวจสอบว่าตัวเลขอยู่ระหว่างช่วง (รวม)
=IF(AND( B2 >=20, B2 <=30), "Yes", "No")
สูตรเฉพาะนี้จะตรวจสอบว่าค่าในเซลล์ B2 อยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 (รวม 20 และ 30) และส่งคืนค่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ตามลำดับ
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีใช้แต่ละสูตรในทางปฏิบัติกับชุดข้อมูลต่อไปนี้ใน Excel ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับคะแนนที่ทำได้โดยผู้เล่นบาสเกตบอลที่แตกต่างกัน:
ตัวอย่างที่ 1: ตรวจสอบว่าตัวเลขอยู่ในช่วงหรือไม่ (ไม่รวม)
เราสามารถพิมพ์สูตรต่อไปนี้ในเซลล์ C2 เพื่อตรวจสอบว่าค่าจุดในเซลล์ B2 อยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 (ไม่รวม) และส่งกลับ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ตามลำดับ:
=IF(AND( B2 >20, B2 <30), “Yes”, “No”)
จากนั้นเราสามารถคลิกและลากสูตรนี้ไปยังแต่ละเซลล์ที่เหลือในคอลัมน์ C:
สูตรจะส่งกลับ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เพื่อระบุว่าค่าของคะแนนในแต่ละแถวอยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 (ไม่รวม)
โปรดทราบว่าค่าทั้งหมดเท่ากับ 20 หรือ 30 พอดีจะถูกกำหนดให้เป็น “ไม่” เนื่องจากสูตรจะตรวจสอบว่าค่าจุด มากกว่า 20 และ น้อยกว่า 30 หรือไม่
ตัวอย่างที่ 2: ตรวจสอบว่าตัวเลขอยู่ระหว่างช่วงหรือไม่ (รวม)
เราสามารถพิมพ์สูตรต่อไปนี้ในเซลล์ C2 เพื่อตรวจสอบว่าค่าจุดในเซลล์ B2 อยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 (รวม) แล้วส่งกลับ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ตามลำดับ:
=IF(AND( B2 >=20, B2 <=30), "Yes", "No")
จากนั้นเราสามารถคลิกและลากสูตรนี้ไปยังแต่ละเซลล์ที่เหลือในคอลัมน์ C:
สูตรจะส่งกลับ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เพื่อระบุว่าค่าของจุดในแต่ละแถวอยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 (รวม)
โปรดทราบว่าค่าทั้งหมดเท่ากับ 20 หรือ 30 พอดีจะถูกกำหนดให้เป็น “ใช่” เนื่องจากสูตรจะตรวจสอบว่าค่าจุด มากกว่าหรือเท่ากับ 20 และ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 30
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
บทช่วยสอนต่อไปนี้อธิบายวิธีการทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน Excel:
Excel: วิธีใช้ COUNTIF กับหลายช่วง
Excel: สูตรง่ายๆ สำหรับ “ถ้าไม่ว่างเปล่า”
Excel: วิธีใช้สูตร RANK IF