สูตร excel: ถ้าเดือนคือเดือนมกราคมแล้ว


คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน IF ต่อไปนี้ใน Excel เพื่อส่งกลับค่าเฉพาะหากเดือนในเซลล์ที่ระบุคือเดือนมกราคม:

 =IF(MONTH( A2 )=1, "Yes", "No")

สำหรับสูตรนี้ ถ้าเดือนของวันที่ในเซลล์ A2 คือเดือนมกราคม ฟังก์ชันนี้จะส่งกลับ “ใช่”

มิฉะนั้นจะส่งกลับ “ไม่”

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีใช้ฟังก์ชันนี้ในทางปฏิบัติ

ตัวอย่าง: สูตร Excel เพื่อตรวจสอบว่าเดือนคือเดือนมกราคมหรือไม่

สมมติว่าเรามีชุดข้อมูลต่อไปนี้ใน Excel ที่แสดงยอดขายรวมที่เกิดขึ้นในวันที่ต่างกันในบริษัท:

เราสามารถพิมพ์สูตรต่อไปนี้ในเซลล์ C2 เพื่อตรวจสอบว่าวันที่ในเซลล์ A2 อยู่ในเดือนมกราคมและส่งกลับ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ตามลำดับ:

 =IF(MONTH( A2 )=1, "Yes", "No")

จากนั้นเราสามารถคลิกและลากสูตรนี้ไปยังแต่ละเซลล์ที่เหลือในคอลัมน์ C:

สูตร Excel ถ้าเป็นวันที่มกราคมแล้ว

ขณะนี้คอลัมน์ C มี “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เพื่อระบุว่าเดือนของแต่ละวันที่ในคอลัมน์ A คือเดือนมกราคมหรือไม่

สูตรนี้ทำงานอย่างไร?

จำสูตรที่เราใช้ตรวจสอบว่าเดือนของวันที่ในเซลล์ A2 คือเดือนมกราคมหรือไม่:

 =IF(MONTH( A2 )=1, "Yes", "No")

สูตรนี้ทำงานอย่างไร:

ฟังก์ชัน MONTH ใน Excel จะส่งกลับค่าจำนวนเต็มระหว่าง 1 ถึง 12 เพื่อระบุหมายเลขเดือนของวันที่ที่ระบุ

หากวันที่ในเซลล์ใดเซลล์หนึ่งเป็นเดือนมกราคม ฟังก์ชัน MONTH จะส่งกลับ 1

เมื่อใช้ MONTH(A2)=1 เราจะคืน ค่า TRUE หรือ FALSE เพื่อระบุว่าเดือนในวันที่ที่ระบุคือเดือนมกราคม

จากนั้นเราใช้ฟังก์ชัน IF แบบธรรมดาเพื่อส่งคืน “ใช่” หากผลลัพธ์เป็น TRUE หรือ “ไม่ใช่” หากผลลัพธ์เป็น FALSE

หมายเหตุ : คุณสามารถแก้ไขสูตรนี้ได้อย่างง่ายดายเพื่อตรวจสอบว่าวันที่ที่กำหนดมีเดือนอื่นหรือไม่

ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อส่งคืน “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เพื่อระบุว่าวันที่ที่กำหนดมี “ตุลาคม” เป็นเดือนหรือไม่:

 =IF(MONTH( A2 )=10, "Yes", "No")

คุณสามารถใช้ค่าจำนวนเต็มใดก็ได้ที่คุณต้องการในสูตร โดยขึ้นอยู่กับเดือนที่คุณต้องการใช้

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

บทช่วยสอนต่อไปนี้อธิบายวิธีการทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน Excel:

Excel: คำนวณจำนวนเดือนระหว่างวันที่
Excel: วิธีคำนวณผลรวมตามวันที่
Excel: วิธีคำนวณค่าเฉลี่ยตามวันที่

เพิ่มความคิดเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *