Excel: ใช้ฟังก์ชัน if เพื่อส่งคืนรายได้สุทธิหรือขาดทุนสุทธิ


คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อใช้ฟังก์ชัน IF เพื่อส่งกลับ “รายได้สุทธิ” หรือ “ขาดทุนสุทธิ” ตามค่าของเซลล์ที่ระบุใน Excel:

 =IF( B2 > C2 ,"Net Income",IF( B2 < C2 ,"Net Loss", "Even"))

สมมติว่ารายได้รวมอยู่ในเซลล์ B2 และค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ในเซลล์ C2 ฟังก์ชัน IF นี้จะส่งคืนค่าต่อไปนี้:

  • หากรายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย ให้ส่งกลับ “รายได้สุทธิ”
  • หากรายได้น้อยกว่าค่าใช้จ่าย ให้ส่งคืน “ขาดทุนสุทธิ”
  • มิฉะนั้น หากรายได้เท่ากับค่าใช้จ่าย ให้ส่งคืน “คู่”

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีการใช้สูตรนี้ในทางปฏิบัติ

ตัวอย่าง: ใช้ฟังก์ชัน IF เพื่อส่งคืนรายได้สุทธิหรือขาดทุนสุทธิใน Excel

สมมติว่าเรามีชุดข้อมูลต่อไปนี้ใน Excel ที่แสดงรายได้และค่าใช้จ่ายรวมของร้านค้าปลีกต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ต่างๆ:

สมมติว่าเราต้องการสร้างสูตรเพื่อส่งคืน “รายได้สุทธิ” “ขาดทุนสุทธิ” หรือ “คู่” เพื่อระบุการเปรียบเทียบรายได้กับค่าใช้จ่ายในแต่ละภูมิภาค

เมื่อต้องการทำเช่นนี้ เราสามารถพิมพ์สูตรต่อไปนี้ในเซลล์ D2 :

 =IF( B2 > C2 ,"Net Income",IF( B2 < C2 ,"Net Loss", "Even"))

จากนั้นเราสามารถคลิกและลากสูตรนี้ไปยังแต่ละเซลล์ที่เหลือในคอลัมน์ D:

ฟังก์ชัน Excel IF เพื่อส่งคืนรายได้สุทธิหรือขาดทุนสุทธิ

ขณะนี้คอลัมน์ D แสดง “รายได้สุทธิ” “ขาดทุนสุทธิ” หรือ “คู่” เพื่อแสดงว่ารายได้เปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในแต่ละภูมิภาคอย่างไร

ตัวอย่างเช่น:

  • รายได้ต่ำกว่ารายจ่ายภาค เหนือ จึงใช้สูตรคืนขาดทุนสุทธิ
  • รายได้เกินรายจ่ายในภาค ตะวันออก จึงได้สูตรคืน “รายได้สุทธิ”
  • รายได้สูงกว่ารายจ่ายภาค ใต้ จึงได้สูตรคืน “รายได้สุทธิ”

และอื่นๆ

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

บทช่วยสอนต่อไปนี้อธิบายวิธีการทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน Excel:

Excel: วิธีใช้ฟังก์ชัน IF กับหลายเงื่อนไข
Excel: วิธีใช้ฟังก์ชัน IF เพื่อส่งคืนใช่หรือไม่ใช่
Excel: วิธีใช้ฟังก์ชัน IF กับช่วงของค่า

เพิ่มความคิดเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *