Google ชีต: ใช้ฟังก์ชัน split และรับรายการสุดท้าย
คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน SPLIT ใน Google ชีตเพื่อแยกข้อความตามตัวคั่นที่ระบุได้
หากต้องการรับองค์ประกอบสุดท้ายที่เกิดจากฟังก์ชัน SPLIT คุณสามารถใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้:
=INDEX(SPLIT( A2 , " " ), COLUMNS(SPLIT( A2 , " " )))
ตัวอย่างนี้จะแยกข้อความในเซลล์ A2 โดยใช้ช่องว่างเป็นตัวคั่น จากนั้นส่งคืนเฉพาะองค์ประกอบสุดท้ายที่เป็นผลจากการแยก
ตัวอย่างเช่น ถ้าสตริงในเซลล์ A2 คือ Andy Bernard Douglas สูตรนี้จะส่งกลับ Douglas
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีการใช้สูตรนี้ในทางปฏิบัติ
ที่เกี่ยวข้อง: วิธีใช้ฟังก์ชัน SPLIT และรับรายการแรกใน Google ชีต
ตัวอย่าง: วิธีใช้ฟังก์ชัน SPLIT และรับรายการสุดท้ายใน Google ชีต
สมมติว่าเรามีคอลัมน์ชื่อต่อไปนี้ใน Google ชีต:
สมมติว่าเราต้องการแยกชื่อตามตำแหน่งของช่องว่าง แล้วรับเฉพาะองค์ประกอบสุดท้ายที่เป็นผลจากการแยก
เมื่อต้องการทำเช่นนี้ เราสามารถพิมพ์สูตรต่อไปนี้ในเซลล์ B2 :
=INDEX(SPLIT( A2 , " " ), COLUMNS(SPLIT( A2 , " " )))
จากนั้นเราสามารถคลิกและลากสูตรนี้ไปยังแต่ละเซลล์ที่เหลือในคอลัมน์ B:
สูตรจะแบ่งชื่อในคอลัมน์ A ตามตำแหน่งของช่องว่าง จากนั้นจะส่งกลับเฉพาะองค์ประกอบสุดท้ายในการหาร
สูตรนี้ทำงานอย่างไร?
จำสูตรที่เราใช้ในการแบ่งข้อความและรับองค์ประกอบสุดท้ายของการแบ่งผลลัพธ์:
=INDEX(SPLIT( A2 , " " ), COLUMNS(SPLIT( A2 , " " )))
สูตรนี้ทำงานอย่างไร:
ขั้นแรก ฟังก์ชัน SPLIT จะแบ่งข้อความในเซลล์ A2 ออกเป็นคอลัมน์ใหม่ตามตำแหน่งของช่องว่าง
ตัวอย่างเช่น ชื่อ Andy Bernard Douglas แบ่งออกเป็นสามคอลัมน์
จากนั้นฟังก์ชัน COLUMNS จะส่งกลับจำนวนคอลัมน์ทั้งหมดที่เป็นผลจากการหาร
ตัวอย่างเช่น ในตัวอย่างนี้จะส่งกลับค่าเป็น 3
สุดท้าย ฟังก์ชัน INDEX จะส่งกลับค่าของคอลัมน์ 3 เท่านั้นที่เป็นผลจากการหาร
ผลลัพธ์ที่ได้คือเราจะได้เฉพาะองค์ประกอบสุดท้ายของการหารเท่านั้น นั่นคือ ดักลาส
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
บทแนะนำต่อไปนี้จะอธิบายวิธีทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน Google ชีต
Google ชีต: วิธีแบ่งข้อความเป็นบรรทัด
Google ชีต: วิธีแยกวันที่และเวลา
Google ชีต: วิธีใช้ SPLIT พร้อมตัวคั่นหลายตัว