วิธีใช้ pmax & pmin ใน r (พร้อมตัวอย่าง)
คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน pmax() และ pmin() ใน R เพื่อค้นหาค่าสูงสุดและค่าต่ำสุดแบบขนานระหว่างเวกเตอร์หลายตัวตามลำดับ
ฟังก์ชันเหล่านี้ใช้ไวยากรณ์พื้นฐานต่อไปนี้:
pmax(vector1, vector2, vector3, ...) pmin(vector1, vector2, vector3, ...)
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีใช้ฟังก์ชันเหล่านี้กับเวกเตอร์และกรอบข้อมูล
ตัวอย่างที่ 1: ใช้ pmax และ pmin กับเวกเตอร์
สมมติว่าเรามีเวกเตอร์สามตัวต่อไปนี้ใน R:
#define three vectors
vector1 <- c(2, 2, 3, 4, 5, 6, 9)
vector2 <- c(1, 2, 4, 3, 3, 5, 4)
vector3 <- c(0, 4, 3, 12, 5, 8, 8)
เราสามารถใช้ฟังก์ชัน pmax และ pmin เพื่อค้นหาค่าสูงสุดและต่ำสุดขององค์ประกอบที่สอดคล้องกันบนเวกเตอร์ทั้งสาม:
#find max value across vectors
pmax(vector1, vector2, vector3)
[1] 2 4 4 12 5 8 9
#find min value across vectors
pmin(vector1, vector2, vector3)
[1] 0 2 3 3 3 5 4
ต่อไปนี้เป็นวิธีการตีความผลลัพธ์:
- ค่าสูงสุดในตำแหน่งแรกของเวกเตอร์ทั้งหมดคือ 2 ค่าต่ำสุดในตำแหน่งแรกของเวกเตอร์ทั้งหมดคือ 0
- ค่าสูงสุดในตำแหน่งที่สองของเวกเตอร์ทั้งหมดคือ 4 ค่าต่ำสุดในตำแหน่งที่สองของเวกเตอร์ทั้งหมดคือ 2
และอื่นๆ
ตัวอย่างที่ 2: ใช้ pmax และ pmin กับคอลัมน์กรอบข้อมูล
สมมติว่าเรามี data frame ต่อไปนี้ใน R:
#create data frame
df <- data. frame (team=c('A', 'B', 'C', 'D', 'E'),
steals=c(24, 22, 36, 33, 30),
assists=c(33, 28, 31, 39, 34),
rebounds=c(30, 28, 24, 24, 41))
#view data frame
df
team steals assists rebounds
1 A 24 33 30
2 B 22 28 28
3 C 36 31 24
4 D 33 39 24
5 E 30 34 41
เราสามารถใช้ฟังก์ชัน pmax และ pmin เพื่อค้นหาค่าสูงสุดและต่ำสุดขององค์ประกอบที่สอดคล้องกันบนเวกเตอร์ทั้งสาม:
#find max value across steals, assists, and rebounds columns
pmax(df$steals, df$assists, df$rebounds)
[1] 33 28 36 39 41
#find minimum value across steals, assists, and rebounds columns
pmin(df$steals, df$assists, df$rebounds)
[1] 24 22 24 24 30
ต่อไปนี้เป็นวิธีการตีความผลลัพธ์:
- ค่าสูงสุดในแถวแรกในคอลัมน์ขโมย แอสซิสต์ และรีบาวด์คือ 33 และค่าต่ำสุดคือ 24
- ค่าสูงสุดในแถวที่สองในคอลัมน์ขโมย แอสซิสต์ และรีบาวด์คือ 28 และค่าต่ำสุดคือ 22
และอื่นๆ
หมายเหตุ : หากคุณมีค่าที่ขาดหายไปในเวกเตอร์ใดๆ เพียงใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้เพื่อละเว้น NA เมื่อคำนวณค่าสูงสุดหรือต่ำสุด:
pmax(vector1, vector2, vector3, na. rm = TRUE ) pmin(vector1, vector2, vector3, na. rm = TRUE )
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
บทช่วยสอนต่อไปนี้จะอธิบายวิธีดำเนินการทั่วไปอื่นๆ ใน R:
วิธีใช้ฟังก์ชัน length() ใน R
วิธีใช้ฟังก์ชัน cat() ใน R
วิธีใช้ฟังก์ชัน substring() ใน R