Excel: วิธีตรวจสอบว่าเซลล์มีวันที่หรือไม่
คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบว่าเซลล์เฉพาะใน Excel มีวันที่ที่ถูกต้องหรือไม่:
= ISNUMBER(DATEVALUE( A2 ))
ตัวอย่างนี้จะตรวจสอบว่าเซลล์ A2 มีวันที่ที่ถูกต้องหรือไม่
หากเป็นเช่นนั้น สูตรจะส่งกลับ TRUE
มิฉะนั้น สูตรจะส่งกลับ FALSE
โปรดทราบว่าฟังก์ชัน DATEVALUE จะแปลงวันที่ที่เป็นข้อความเป็นเลขลำดับ
หากฟังก์ชันนี้ไม่สามารถแปลงวันที่ข้อความเป็นเลขลำดับได้ แสดงว่า #VALUE! จะถูกส่งกลับ
จากนั้นเราล้อมฟังก์ชันนี้ด้วยฟังก์ชัน ISNUMBER() เพื่อตรวจสอบว่าเซลล์มีตัวเลขหรือไม่ และส่งคืน ค่า TRUE หรือ FALSE ตามลำดับ
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีการใช้สูตรนี้ใน Excel
ตัวอย่าง: ตรวจสอบว่าเซลล์มีวันที่ใน Excel หรือไม่
สมมติว่าเรามีรายการค่าข้อความต่อไปนี้ใน Excel:
หมายเหตุ : สิ่งสำคัญคือต้องจัดรูปแบบค่าในคอลัมน์ A เป็นข้อความก่อนใช้สูตร
เราจะใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบว่าแต่ละเซลล์ในคอลัมน์ A มีวันที่ที่ถูกต้องหรือไม่:
= ISNUMBER(DATEVALUE( A2 ))
เราจะพิมพ์สูตรนี้ในเซลล์ B2 จากนั้นคัดลอกและวางลงในเซลล์ที่เหลือแต่ละเซลล์ในคอลัมน์ B:
ค่าในคอลัมน์ B บอกเราว่าค่าที่ตรงกันแต่ละค่าในคอลัมน์ A เป็นวันที่ที่ถูกต้องหรือไม่
ตัวอย่างเช่น เราเห็น:
- “เฮ้” ไม่ใช่วันที่ที่ถูกต้อง
- “10/14/2023” เป็นวันที่ที่ถูกต้อง
- “10/32/2023” ไม่ใช่วันที่ที่ถูกต้องเนื่องจากไม่มีวันที่ 32 ตุลาคม
- “12/25/2023” เป็นวันที่ที่ถูกต้อง
- “10/14/2023” ไม่ใช่วันที่ที่ถูกต้อง เนื่องจากในหนึ่งปีไม่มี 14 เดือน
- “01/12/2023” ไม่ใช่วันที่ที่ถูกต้อง
หากคุณต้องการส่งกลับค่าอื่นที่ไม่ใช่ TRUE หรือ FALSE คุณสามารถล้อมสูตรในฟังก์ชัน IF ได้:
=IF( ISNUMBER(DATEVALUE( A2 )), "Valid", "Not Valid")
เราจะพิมพ์สูตรนี้ในเซลล์ B2 จากนั้นคัดลอกและวางลงในเซลล์ที่เหลือแต่ละเซลล์ในคอลัมน์ B:
ตอนนี้แต่ละค่าในคอลัมน์ B จะส่งคืนค่า “ถูกต้อง” หรือ “ไม่ถูกต้อง” เพื่อระบุว่าค่าในเซลล์ที่เกี่ยวข้องในคอลัมน์ A เป็นวันที่ที่ถูกต้องหรือไม่
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
บทช่วยสอนต่อไปนี้อธิบายวิธีการทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน Excel:
Excel: วิธีตรวจสอบว่าช่วงมีค่าเฉพาะหรือไม่
Excel: วิธีตรวจสอบว่าเซลล์มีข้อความบางส่วนหรือไม่
Excel: วิธีตรวจสอบว่ามีค่าคอลัมน์อยู่ในคอลัมน์อื่นหรือไม่