วิธีใช้คำสั่ง if หลายรายการใน google ชีต
คุณสามารถใช้ไวยากรณ์พื้นฐานต่อไปนี้เพื่อเขียนคำสั่ง IF หลายรายการในเซลล์เดียวใน Google ชีตได้
= IF ( A2 < 10 , " Bad " , IF ( A2 < 20 , " Okay " , IF ( A2 < 30 , " Good " , " Great " ) ) )
นี่คือสิ่งที่ไวยากรณ์นี้ทำ:
- ถ้าค่าของเซลล์ A2 น้อยกว่า 10 จะส่งกลับค่า “ไม่ดี”
- มิฉะนั้น ถ้าค่าในเซลล์ A2 น้อยกว่า 20 ให้ส่งกลับค่า “ตกลง”
- มิฉะนั้น ถ้าค่าในเซลล์ A2 น้อยกว่า 30 ให้ส่งกลับค่า “ดี”
- มิฉะนั้นจะส่งคืนค่า “Super”
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีใช้ไวยากรณ์นี้ในทางปฏิบัติ
ตัวอย่างที่ 1: ใช้คำสั่ง IF หลายรายการใน Google ชีต
สมมติว่าเรามีคอลัมน์ต่อไปนี้ใน Google ชีตที่แสดงคะแนนที่ผู้เล่นบาสเก็ตบอลแต่ละคนทำได้:
เราสามารถใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้เพื่อเขียนคำสั่ง IF หลายคำสั่งเพื่อจำแนกผู้เล่นเป็น “ไม่ดี” “ตกลง” “ดี” หรือ “ยอดเยี่ยม”:
= IF ( A2 < 10 , " Bad " , IF ( A2 < 20 , " Okay " , IF ( A2 < 30 , " Good " , " Great " ) ) )
ภาพหน้าจอต่อไปนี้แสดงวิธีใช้ไวยากรณ์นี้ในทางปฏิบัติ:
ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับการจัดอันดับตามจำนวนคะแนนที่ทำได้
ตัวอย่างที่ 2: ใช้ฟังก์ชัน IFS ใน Google ชีต
วิธีที่ง่ายกว่าในการเขียนคำสั่ง IF หลายรายการคือการใช้ฟังก์ชัน IFS
เราสามารถใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้เพื่อเขียนคำสั่ง IFS เพื่อจัดประเภทผู้เล่นเป็น “แย่”, “ตกลง”, “ดี” หรือ “ยอดเยี่ยม”:
= IFS ( A2 < 10 , " Bad " , A2 < 20 , " Okay " , A2 < 30 , " Good " , A2 >= 30 , " Great " )
ภาพหน้าจอต่อไปนี้แสดงวิธีใช้ไวยากรณ์นี้ในทางปฏิบัติ:
ซึ่งให้ผลลัพธ์เหมือนกับตัวอย่างก่อนหน้านี้
โปรดทราบว่าไวยากรณ์นี้เขียนได้ง่ายกว่ามากเนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องเขียนคำสั่ง IF ที่ซ้อนกันหลายรายการ
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
บทแนะนำต่อไปนี้จะอธิบายวิธีทำงานทั่วไปอื่นๆ ใน Google ชีต
Google ชีต: วิธีใช้ COUNTIF กับหลายช่วง
Google ชีต: วิธีใช้ SUMIF กับหลายคอลัมน์
Google ชีต: วิธีตรวจสอบว่าค่าอยู่ในช่วงหรือไม่